ถิรไทย หรือ TRT โชว์ผลประกอบการที่น่าประทับใจ งวด 9 เดือน กำไร 156.41 ล้านบาท โตขึ้น 33.43 % ผู้บริหาร "สัมพันธ์ วงษ์ปาน" ปลื้มสุด โชว์กำไรงวดไตรมาส 3 โตพรวด 231.87 % คิดเป็น 82.17 ล้านบาท เพราะส่งมอบงานได้ตามกำหนด คาดสิ้นปี 54 มั่นใจรายได้จะเป็นไปตามเป้า 2,100 ล้านบาท แน่นอน

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาด ของคนไทยเพียงแห่งเดียว เปิดเผยถึงผลดำเนินการสำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2554 เท่ากับ 156.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.19 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.43

และบริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสำหรับงวดไตรมาส 3 เท่ากับ 82.17ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันของปีก่อน 57.41 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 231.87 การเพิ่มขึ้นของยอดขายเป็นผลเนื่องจากการส่งมอบหม้อแปลงไฟฟ้าที่ผลิตได้ตามกำหนด

ส่วนรายได้รวมของบริษัทฯ สำหรับงวดเก้าเดือนเท่ากับ 1,444.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 289.77 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.10 และรายได้รวมสำหรับงวดไตรมาส 3 เท่ากับ 527.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.71 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 30.95

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นในงวดเก้าเดือน ซึ่งมีรายได้จากการขายหม้อแปลงไฟฟ้าเท่ากับร้อยละ 29.04 สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 26.40 และอัตรากำไรขั้นต้นจากรายได้จากการบริการ เท่ากับร้อยละ 60.03 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 73.64

ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายหม้อแปลงไฟฟ้าเท่ากับ 84.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.62ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51.66 และค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 147.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.96 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.62 ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น

"สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับงวดสามเดือน ซึ่งมีรายได้จากการขายหม้อแปลงไฟฟ้าเท่ากับร้อยละ 35.50 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 24.22 และอัตรากำไรขั้นต้นจากรายได้จากการบริการเท่ากับร้อยละ 62.60 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 74.78 โดยคาดว่าสิ้นปีนี้บริษัทฯ จะสามารถทำรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,100 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมทั้งในแง่กำลังการผลิตและการส่งมอบ" นายสัมพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย