TRT โชว์แถลงผลงานปี 55 ประกาศจ่ายปันผลเป็นหุ้นมูลค่า 10 ส.ต.
ถิรไทย หรือ TRT ประกาศผลประกอบการปี 2555 กวาดยอดขาย 1,740.83 ล้านบาท ด้วยกำไรสุทธิ 30.22 ล้านบาท พร้อมกวาดรายได้จากการให้บริการ และซ่อมบำรุง 180.33 ล้านบาท โตกว่า 245.66% ด้านผู้ถือหุ้นเตรียมเฮ รับปันผลเป็นหุ้น หรือคิดเป็นเงินมูลค่า 10 สตางค์ต่อหุ้น มูลค่ากว่า 27.9 ล้านบาท "สัมพันธ์ วงษ์ปาน" ผู้บริหารฯ แย้มปีนี้ทิศทางสดใสมากคาดกวาดรายได้โตมากกว่า 40 % ชัวร์ หลังตุน Backlog ในมือแล้วกว่า 1,441 ล้านบาท
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาดของคนไทยเพียงแห่งเดียว เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2555 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิสำหรับปี 2555 เท่ากับ 30.22 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 84.25 โดยมีรายได้จากการขายสำหรับปี 2555 และปี 2554 เท่ากับ 1,740.83 ล้านบาท และ 1,802.51 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 3.42 และรายได้จากการบริการสำหรับปี 2555 และ ปี 2554 เท่ากับ 180.33 ล้านบาท และ 52.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 245.66
บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีอัตรากำไรขั้นต้นประจำปี 2555 จากรายได้จากขายเท่ากับร้อยละ 17.78 ต่ำลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 28.75 และอัตรากำไรขั้นต้นจากรายได้จากการบริการเท่ากับร้อยละ 36.04 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 70.58
ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการขายเท่ากับ 108.80 ล้านบาท ลดลง 0.93 คิดเป็นร้อยละ 0.85 และค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 217.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.66 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 9.90 และต้นทุนทางการเงินเท่ากับ 38.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.57 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 82.49
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการของบริษัทฯ ได้มีมติประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัท ฯ จำนวนไม่เกิน 27,989,840 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัท ในอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 27,989,840 บาท
สำหรับปี 2556 บริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการจะกลับมาดี และเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการที่เศรษฐกิจและการลงทุนมีการขยายตัวอย่างชัดเจนทั้งภูมิภาค ASEAN โดยคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 40 % เนื่องจากคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ของทุกผลิตภัณฑ์ขยายตัวมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) มูลค่ากว่า 1,441 ล้านบาทแล้ว ซึ่งเทียบปีที่ผ่านมาเกือบมากกว่าผลประกอบการทั้งปี โดยแบ่งเป็นงานในภาครัฐบาลกว่า 442 ล้านบาท ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 14 ล้านบาท การไฟฟ้านครหลวง 162 ล้านบาท และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต 268 ล้านบาท และ อีก 581ล้านบาท จะเป็นงานภาคเอกชน และ ส่งออกต่างประเทศอีก 216 ล้านบาท และ มูลค่างานคงเหลือจากบริษัทย่อยอีก 200 ล้านบาท
“สำหรับงานที่มีโครงการจะเปิดประมูลและงานที่บริษัทดำเนินการเสนอราคา ในช่วง Q1-Q2 มีมูลค่ากว่า 7,250 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค วงเงิน 2,050 ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิต 200 ล้านบาท และการไฟฟ้านครหลวง 1,900 ล้านบาท และ ในส่วนของภาคเอกชน 2,300 ล้านบาท และส่งออก 500 ล้านบาท และ งานประมูลของบริษัทย่อย 300 ล้านบาท บริษัทฯคาดว่าจะสามารถชนะการประมูลงานได้มากกว่า 20-25% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) จะคงรักษาระดับให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 20-25 % ควบคู่กับการรักษาสัดส่วนตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และมาตรการในด้านอื่นๆ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ เพื่อรักษาอัตราเติบโตของบริษัทฯ” นายสัมพันธ์ กล่าวปิดท้าย