ถิรไทย หรือ TRT ไตรมาส 2 ปี 54 โตแบบฉุดไม่อยู่ กวาดยอดขายรายได้รวมทะลุ 540 ล้านบาท กำไรโตพรวด 191.3 % รับอานิสงส์เศรษฐกิจ และการเมืองที่ดีขึ้น พร้อมจัดทัพเดินหน้าลุยประมูลงานไม่หยุดทั้งงานในประเทศ และต่างประเทศมูลค่า 6.2 พันล้านบาท คาดได้ไม่ต่ำกว่า 20 % ด้าน"สัมพันธ์ วงษ์ปาน" ผู้บริหาร TRT เผยปีนี้รายได้ดีดกลับตามเป้าได้ประมาณ 2,200 ล้านบาทแน่ จากงานในมือ (Backlog) แล้วกว่า 1,850  ล้านบาท พร้อมย้ำ TRT เหมาะกับการลงทุนระยะยาว ผู้ถือหุ้นเฮเตรียมรับปันผลระหว่างกาล 0.15 บาท

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี  2554 ว่า บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยมีผลประกอบการงวดหกเดือน สิ้นสุด  ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 บริษัท มีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 45.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 29.78 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 191.3 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น ทั้งบรรยากาศการเมืองคลี่คลาย ส่งผลให้มีโปรเจ็กต์ใหม่ๆ เกี่ยวกับพลังงานเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมไตรมาสที่ 2 ปี 2554 เท่ากับ 543.19 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ  235.60 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 76.64 และมีอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับการขายร้อยละ 24.32 จากอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับการขายงวดเดียวกันของปีก่อน  ซึ่งเท่ากับร้อยละ 22.89 สูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 6.25 และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวม 88.96 ล้านบาท สูงขึ้นกว่างวดเดียวกันของปีก่อน เป็นเงิน 32.16 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56.62 โดยมีต้นทุนทางการเงินเท่ากับ  5.21 ล้านบาท ลดลง 1.19 ล้านบาท 

นอกจากนี้ มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2554  ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2554  ในอัตราหุ้นละ0.15 บาท  รวมเป็นเงินจ่ายปันผลทั้งสิ้น 41,954,601.90 บาท  โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2554  และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์  โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 26 สิงหาคม 2554 และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่  9 กันยายน 2554 นี้อีกด้วย

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญาในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 2 สัญญา มูลค่ารวมกว่า 517 ล้านบาท ทั้งการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง Power Transformer จำนวน 4 ยูนิต และผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า CSP Type Transformer จำนวน 680 ยูนิต ซึ่งจะทำการติดตั้งทั่วเขตนครหลวง และในช่วงครึ่งปีหลัง 2554 บริษัทยังมีแผนประมูลงานใหม่ทั้งของหน่วยงานภาครัฐทั้ง 3 การไฟฟ้า และหน่วยงานเอกชนในประเทศ และต่างประเทศ ที่มีมูลค่ากว่า 6,200 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถประมูลงานได้มากกว่า 20 % ของมูลค่างาน หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท

 "ทิศทางของบริษัทฯ ในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยบริษัทคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถมีรายได้รวมทั้งปีกว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตจากปีที่แล้ว 1,520 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ มีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วกว่า 1,850 ล้านบาท สำหรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของบริษัทในปีนี้ เป็นไปตามภาวะของเศรษฐกิจของประเทศและของโลก ที่มีอัตราการเติบโตมากขึ้น ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ แบ่งเป็น งานภาครัฐ 33%, โครงการภาคเอกชน 33% อีก 33% จะเป็นการส่งออกไปยังต่างประเทศ และเป็นงานด้านอื่น ๆ และการซ่อมบำรุงอีก 1%" นายสัมพันธ์ กล่าวปิดท้าย